viernes, 18 de julio de 2014

ประสบการณ์สอบโทเฟล :)

ตั้งใจจะเขียนเล่าประสบการณ์การสอบโทเฟลตั้งแต่หลังจากสอบเสร็จใหม่ๆ แต่ด้วยอะไรก็ไม่รู้มากมายในช่วงนั้น ทำให้ไม่ได้นั่งเขียนประสบการณ์ตัวเองสักที จนวันนี้ วันที่รับทราบผลสอบปริญญาโทเรียบร้อยแล้ว เลยคิดว่าเอาเรื่องสอบโทเฟลกลับมาเล่าหน่อยดีกว่า

เตรียมตัวยังไงบ้าง?

สิ่งที่ฝึกเยอะหน่อย คือ ส่วนฟังกับอ่าน เพราะเป็นคนที่ฟังชาวบ้านพูดไม่รู้เรื่อง ก่อนสอบไม่กี่วันถึงมาฝึกพูดโดยการจับเวลา แต่เรื่องเขียน บอกตรงๆว่าไม่ได้ดูไปเลยสักนิด ไม่ใช่ว่าหย่ามใจ แต่มันเป็นการฝึกที่เสียเวลามากสำหรับเรา และเราไม่สามารถให้คะแนนตัวเองได้ ก็เลยข้ามๆไปไม่ได้ฝึก แค่ดูว่าต้องเขียนกี่บทความ แค่นั้นเอง

สมัครสอบยังไง?
ง่ายมาก แค่ต้องมีบัตรเครดิต เข้าไปที่ www.ets.org แล้วลงทะเบียนกับทางเว็บ กรอกข้อมูลทุกอย่างให้เรียบร้อย เลือกวันเวลาและสถานที่สอบ ตรวจเช็คข้อมูลต่างๆให้ดี เพื่อกันความผิดพลาดในภายหลัง แล้วกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ตัดได้เลย ง่ายฝุด

เลือกสถานที่ที่สอบยังไง?
ตอนแรกเราไม่ได้สนใจเลยนะว่า เออ ที่สอบจะมีผลกับเราขนาดนั้นเลยหรอ เพราะคิดว่าสอบที่ไหนๆก็คงเหมือนกัน ปรากฏว่าจริงๆแล้ว "ที่สอบมีผลมากนะ" เพราะเป็นการสอบแบบ Internet Based ฉะนั้นระบบมันควรจะดี อุปกรณ์ควรจะพร้อม เพราะความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเหล่านั้น มีผลกับคะแนนของเราทั้งหมด บางคนไมค์ที่ใช้พูดไม่ดัง ทำๆอยู่อินเตอร์เน็ตล่ม ฯลฯ เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ ก่อให้เกิดความไม่สบายใจกับเราทั้งสิ้น อย่าคาดหวังว่าศูนย์สอบทุกที่จะมีความพร้อมเหมือนกันหมด เราอ่านรีวิวต่างๆเยอะมาก แต่ด้วยเรื่องวันสอบที่จำกัดประกอบกับเพื่อความสะดวกในการเดินทาง เราเลยเลือกๆไปก่อน เน้นเดินทางสะดวก

วันสอบ
เราไปถึงประมาณ 8.20 น. พอมีเวลาทำโน่นนี่ แต่ปรากฏว่า สนามสอบคืนก่อนหน้านั้นฝนตก (?) ทำให้สัญญาณเน็ตวันต่อมาไม่เสถียร ตอนแรกก็คิดๆละ ลางไม่ค่อยดีเลยแฮะ ... สรุปแล้ววันนั้น ไม่ได้สอบเลย นั่งรอสัญญาณเน็ตถึงสิบเอ็ดโมง โคตรโมโห 55555 กลายเป็นว่าต้องมาสอบใหม่ สยองมาก มันทำให้รอบต่อมาเราระแวงสุดๆว่า เอ๊ะ แล้วเราจะได้สอบมั้ยวะ แล้วทำๆอยู่มันล่มแบบกู่ไม่กลับจะทำยังไง และบลาๆๆๆๆ คือถ้าเป็นในกรณีที่มีปัญหาแบบนี้ ทางโน้นยืนยันให้เรากลับบ้านได้ เค้าจะ reschedule ตารางใหม่มาให้เราเอง และเราสามารถเปลี่ยนเองได้อีก 1 ครั้ง แบบไม่เสียเงิน เผื่อว่าวันที่เค้านัดใหม่เราไม่ว่าง (ซึ่งเราก็ไม่ว่าง แต่ชีวิตทางเลือกไม่เยอะแงะะะ) เราก็ไม่ได้เปลี่ยนนะ สรุปก็ไปสอบหลังจากนั้นอีกสองอาทิตย์ สอบที่เดิม เซ็งสุด 5555

วันสอบ (จริง)
โชคดี วันสอบอีกรอบราบรื่น มาถึงก็ลงทะเบียนก่อนเหมือนเดิม ถ่ายรูป รอเรียกขึ้นห้อง พอนั่งประจำที่ คีย์ข้อมูลนิดหน่อย ล็อคอิน เทสต์เสียงไมค์และหูฟัง ซึ่งตอนแรกไมค์เราไม่ดัง คิดในใจ กูอีกแล้ว ทำไมกูถึงประสบความล้มเหลวด้านเทคโนโลยีขนาดนี้ สุดท้ายเวลาพูดต้องจับไมค์จ่อที่ปากตลอดเวลา พูดกับคอมว่าไม่เป็นธรรมชาติแล้ว มานั่งจับไมค์จ่อปากตลอด ยิ่งไม่เป็นธรรมชาติยิ่งกว่า อนาถตัวเอง

เวลาสอบเค้ามีทุกอย่างให้ ไม่ต้องเตรียมอะไรไปเลย ยกเว้นเสื้อหนาว 555 ในกรณีเป็นคนขี้หนาวแบบเรานะ การสอบของเราจะแบ่งเป็นอ่านกับฟังก่อน (ประมาณสองชั่วโมง) แล้วเบรคสิบนาที ค่อยมาทำพูดกับเขียนต่อ (อีกประมาณสองชั่วโมง) ควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะ เพราะเมื่อกดล็อคอินทำข้อสอบปุ๊บเวลาทางมุมขวาบนจะเริ่มเดินถอยหลังทันที ถ้าเราจำไม่ผิดในพาร์ทอ่านของเรามี 3 พาร์ท ไม่ยากมาก ถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป หาเจอได้ใน text เป็นบทความเชิงวิชาการหน่อย ก็เป็นเรื่องรอบตัว เช่น สิ่งแวดล้อม ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เวลาสอบมันจะมีให้เราย้อนกลับไปดู text ได้ ถ้าเราอยากรีวิวหรือแก้ไขคำตอบข้อไหนภายใน text เดียวกัน ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าเราเปลี่ยนไปอ่าน text ถัดมาแล้ว จะกลับไปแก้ไขคำตอบอะไรใน text ก่อนหน้านี้ไม่ได้อีก

พาร์ทฟัง เราจำไม่ได้ว่าเราฟังไปเท่าไหร่ แต่บอกเลยว่า ฟังจนเพลียมากกกกกกกกก คือ ทำไปจนคิดว่านี่ยังไม่จบอีกหรอ กุจะหลับแล้วนะ ฟังได้แค่ครั้งเดียว ต้องจดเอา แล้วค่อยมาตอบคำถาม ซึ่งสำหรับเรา คิดว่าบางทีก็ถามรายละเอียดยิบย่อยมาก (คือ กุมิได้จดมาาา) เป็นรายละเอียดที่เราไม่ได้สนใจ แต่เค้าก็ดันถาม พาร์ทนี้ก็ไม่พ้นบทสนทนาระหว่างอาจารย์กับนักเรียน การอภิปรายต่างๆในห้องเรียน การเลคเชอร์ของอาจารย์ โดยหัวข้อก็เป็นหัวข้อวิชาการคล้ายๆพาร์ทอ่านเลย แต่มันอาจจะเป็นรายละเอียดที่ซอยลึกลงไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หัวข้อหัวข้อหนึ่งไปเลย ซึ่งสำหรับเรา เราว่าพอฟังออกและทำความเข้าใจได้ แต่มันไม่ถ่องแท้ เพราะนึกภาพตามไม่ออกจริงๆ ถ้าไม่ได้มีความรู้เรื่องนั้นมา

พอทำพาร์ทนี้จบ นาฬิกาจะเริ่มจับเวลาเบรคเราสิบนาที พอครบสิบนาที ผู้คุมสอบก็จะมาคีย์พาสเวิร์ดให้เรากลับไปทำพาร์ทพูดกับเขียน

พาร์ทพูดคือ  เกือบลืมจับไมค์ให้ดีๆ ตื่นเต้นมาก ไม่เป็นธรรมชาติเลย คือ พอเราเห็นหรือฟังโจทย์ปุ๊บ ก็จะมีเวลาให้เราคิด (ไม่ถึงนาที จับเวลาด้วย) พอหมดเวลาคิดก็จะให้เราพูดโดยจับเวลาอีก (แล้วแต่ว่าไม่เกิน 45 วิ หรือ 60 วิ) คือ มันไม่เป็นธรรมชาติจริงๆนะ แต่ก็ต้องถูไถพูดไปจนจบ ก่อนเราจะพูดตอบคำถาม ก็อาจจะมีให้เราอ่านเท็กซ์ก่อน อ่านจบแล้วค่อยฟังต่อ แล้วเค้าก็จะมีคำถามที่เชื่อมโยงระหว่างเท็กซ์กับสิ่งที่เราฟังไป มีให้ฟังแล้วสรุปว่าสิ่งที่ได้ฟังคืออะไร บวกกับแสดงความเห็นนิดหน่อย (ถ้าเป็นเราจะทำยังไง อะไรประมาณนี้) หรืออาจจะเป็นการถามคำถามทั่วไป ให้เราตอบตามความคิด ทำนองนี้

พาร์ทเขียน มีสองข้อใหญ่ๆ เลย คือ ให้อ่านบทความ ฟังเลคเชอร์ แล้วเขียนสรุป (หรืออะไรแล้วแต่ ตามที่โจทย์ต้องการ) อีกพาร์ทคือเขียนเรียงความแนวเห็นด้วยไม่เห็นด้วย เสนอแนวคิดเรา ความคิดเรา ยกเหตุผลมาซัพพอร์ต ประมาณนี้

สิ่งที่เราชอบสุดคือ การเขียน เพราะมันถนัดมือมาก ลบแล้วเขียนใหม่ได้ ไม่ต้องกลัวกระดาษเละเทะ นอกนั้นสอบอ่านกับพูด เราว่ามันแปลกๆอยู่เหมือนกัน เวลาสอบกับคอมเนี่ย

คะแนน
ตอนสมัคร เค้าถามเลยว่าจะให้เราส่งคะแนนไปให้ที่ไหนบ้าง ถ้าเราจะให้คะแนนส่งตรงไปที่มหาวิทยาลัย เราต้องแจ้งไปเลยตั้งแต่ตอนนั้น จำไม่ได้ว่าส่งฟรีได้กี่ที่ ไม่งั้นต้องเสียเงินส่งไปทีหลัง (มหาวิทยาลัยต่างประเทศหลายที่รับตัวจริงอย่างเดียว ไม่รับก้อปปี้ เค้าจะรับเฉพาะคะแนนที่ส่งมาจากศูนย์สอบเท่านั้น) เราเลือกส่งให้ตัวเองอย่างเดียวนะ เพราะคิดว่าที่ไทยไม่น่าจะต้องขนาดนั้น เค้าจะมีตารางบอกว่าสอบวันนี้ คะแนนจะโพสต์ลงเว็บเมื่อไหร่ พอคะแนนโพสต์แล้วก็จะส่งเมลมาแจ้งด้วย แต่ใบคะแนนตัวจริงต้องรอเป็นเดือน จนบัดนี้เราก็ยังไม่ได้ 55555

ถามว่าพอใจคะแนนมั้ย ก็โอเค ไม่ได้แย่ แต่ก็แอบอยากได้มากกว่านี้อีกสักนิด
Overall ของเราคือ 96
Reading: 26 (High)
Listening: 23 (High)
Speaking: 26 (Good)
Writing: 21 (Fair)

อ้างอิงดูการแปลงผลคะแนนได้จากเว็บไซต์ของโทเฟลตรงนี้ http://www.ets.org/toefl/ibt/scores/understand/

แต่เราคิดว่าสกิลของเราก็มีเท่านี้ล่ะนะ ใจจริงอยากได้ Writing มากกว่านี้หน่อย เพราะเราคิดว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ อันนี้ออกจากห้องสอบมารู้ตัวแหละ ว่าเขียนได้ไม่โอเคเลย ที่เซอร์ไพรส์คือ พูด ไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนั้น เพราะเราว่าเราพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เหมือนวกไปวนมามากกว่า แถมคะแนนแบบข้อย่อย เราได้คะแนนเยอะในส่วนที่ไม่มั่นใจมากๆ ก็เลยงงว่า คือ ยังไง เค้าต้องการคำตอบงงๆแบบนั้นหรอ 5555

เอาเป็นว่าการสอบก็จบลง ตอนนี้เหลือแค่ใบคะแนนอย่างเดียว
เอาจริง ไม่ค่อยอยากได้รูปโทรมๆที่ถ่ายแปะไปบนใบผลสอบสักเท่าไหร่เลยนะ 55555