lunes, 26 de mayo de 2014

It's my first time reading ''New York 1st Time''

อ้าว... นี่ไม่ได้เขียนบล็อกมาเกือบหกเดือนแล้วหรือนี่....

กลับมาวันนี้ตอนแรกตั้งใจว่า เอาวะ วันนี้ล่ะ จะเขียนเรื่องไปเที่ยวลงบล็อกอย่างจริงจังให้ได้
พักนี้หนักๆหัว เพราะอ่าน En Llamas มากไป เครียดค่ะ (En Llamas คือ ฉบับแปลภาษาสเปนของ Catching Fire นอกจากเนื้อหาจะชวนเครียดแล้ว ภาษาสเปนง่อยๆของเรายังเป็นอุปสรรคในการอ่านด้วย)
ด้วยเหตุนี้เลยคิดโฉบตัวไปตามแผงหนังสือสักหน่อย เห็นหนังสือ New York 1st Time ก็สะดุดตาละ ยิ่งไล่ลงไปตามชั้นหนังสือท่องเที่ยวเรื่อยๆ ข้าพเจ้าแทบสิ้นสติ ไม่นะ!เล่มนั้นเขียนไปสเปน ไม่นะ!เล่มนี้เขียนไปอาร์เจนตินา นั่นเปรู นั่นญี่ปุ่น นั่นยุโรป ... นั่น... นั่น! ความริษยานี่พวยพุ่งออกจากตาเลยจริงๆ โลกนี้ชาวบ้านเค้าเที่ยวกันจนพรุนแล้วสินะ เขียนหนังสือเล่าทุกซอกมุมกันหมดแล้วสินะ ชั้นหนังสือพวกนี้จะมีที่ให้ชื่อเราปรากฏบ้างไหม (วะ) ความรู้สึกเหงาหงอยเพราะปีนี้ยังไม่ได้ไปเที่ยวเลยกับความรู้สึกแค้นใจที่ตัวเองเขียนอะไรไม่จบสักอย่าง ทำให้เรามี love-hate relationship กับชั้นหนังสือท่องเที่ยวในร้านหนังสือทุกร้านมาก กลับมาก็ฮึกเหิมทุกครั้งว่า วันนี้จะเขียน วันนี้จะเขียน ... แต่เขียนอยู่วันเดียวเท่านั้นล่ะ เพราะแรงบันดาลใจที่ของดิฉันต่ำมากค่ะ (สงสัยต้องไปที่ชั้นหนังสือพวกนี้ทุกวัน -.-)

วันนี้ก่อนจะผละจากชั้นหนังสือด้วยความแค้นใจเหมือนเคย เราตัดสินใจหยิบ New York 1st Time ติดมาด้วย คลิปในยูทู้ปของเค้าเราก็ดูนะ ตลกมาก รู้จักหนังสือเล่มนี้ก็จากคลิปนั้น หมายตาไว้เหมือนกันว่าจะซื้อ แต่ก็รู้อยู่ว่าซื้อแล้วจะเป็นยังไง เลยลังเลอยู่เรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เลยแบก En Llmas เล่มเท่าดิกชั่นนารีขึ้น MRT อยู่ทุกวัน แทนหนังสือเล่มกระทัดรัดที่เล่าประสบการณ์ฮาๆแบบนี้

หน้าปก New York 1st Time 


สรุปว่าซื้อ หิ้วกลับมาบ้าน นอนอ่าน แล้วก็อ่านรวดเดียวจบ
สไตล์การเขียนของคุณเบ๊นทำให้เราพลิกหน้าอ่านได้อย่างสนุกจนลืมเวลา (ว่ากรุต้องสอบโทเฟลและสเปนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างนะคะ ไม่ควรเอาเวลามาอ่านอย่างอื่น อ๊าาาาา)
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เล่าชีวิตสวยหรู ที่อ่านแล้วต้องอิจฉา
ไม่ใช่ไกด์บุ๊คที่ช่วยให้คุณเอาชีวิตรอดในนิวยอร์คได้แบบชิลล์ๆ

หนังสือเล่มนี้แค่เล่าประสบการณ์"ครั้งแรก"ของคนๆหนึ่งที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในนิวยอร์ค
แต่ "ครั้งแรก" ที่ว่านั้น เราว่าเป็นจุดขายที่ดีมากๆที่ทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นหนังสือขายดี ถึงขั้นว่าพิมพ์มาแล้วห้าครั้ง ภายในระยะเวลาแค่สองเดือน
คุณเบ๊นไม่ได้เล่าเรื่องเรียบๆว่าไปนิวยอร์คนะ เจอนั่นเจอนี่ แต่เขาเลือกประสบการณ์"ครั้งแรก"มาเล่า
แล้วด้วยความที่เป็นครั้งแรกไง ประสบการณ์จึงแฝงไปด้วยความตลกแบบที่ถ้าเราเจอกับตัว ณ วินาทีนั้นเราจะขำไม่ออก

ไม่รู้สิ มันเหมือนกับเราก็ได้ตามเขาไปนิวยอร์คด้วย และก็ได้ตามตัวเองกลับไปในอดีตที่มีโอกาสได้ทำอะไร "ครั้งแรก" ในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองเหมือนกัน ยิ่งเราเป็นคนกลัวทำผิดพลาด ครั้งแรกของเราจึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะถ้าพลาด บางทีจะเฟลและขยาดไปเลย

เราอ่านเรื่องนี้ไป ขำไป ยิ้มไป น้ำตาซึมนิดหน่อยก็มี
ชอบที่เค้าให้ความสำคัญกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ และถ่ายทอดมันออกมาได้ดี
เป็นเรื่องทั่วๆไปในชีวิตประจำวันที่พวกเราก็เจอ แต่บางครั้งเรามองข้าม

คือ ไม่ต้องไปนิวยอร์คก็มี First Time ได้นึกออกมั้ย
เพียงแค่เราลองทำอะไรที่นอกเหนือไปจาก routine ปกติ แค่นี้ทุกอย่างก็จะกลายเป็น First Time แม้แต่การลองขึ้นรถเมล์สายใหม่ๆ

หลายครั้ง first time เป็นจุดเริ่มต้นของ many times
แต่หลายครั้ง first time ก็เป็น synonym ของ last time

แต่ไม่ว่าสิ่งที่ตามมานั้นจะเป็น many times หรือ last time
ถ้าเราไม่มี first time สิ่งที่ตามมาก็คงจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยสินะ ...

เฮ้อ...
เพ้อ

นอนค่ะ ตีหนึ่งค่ะ พรุ่งนี้ทำงาน!
แม้การไปสายจะแปรสภาพจาก first time เป็น many times แล้วก็เถอะ
T___T